ในปัจจุบันผู้คนได้หันมานิยมใช้ที่นอนยางพารากันมากขึ้น ด้วยคุณสมบัติที่มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยให้การนอนหลับพักผ่อนให้สบายมากยิ่งขึ้น ลดอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดี ตลอดจนช่วยให้การนอนเป็นไปตามสรีระที่เหมาะสม ซึ่งนอกจากจะลดอาการปวดหลังได้แล้วยังลดอาการปวดกระต้นคอ หรือปวดกระดูกตามไขข้อในส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นแขน ขา สะโพก บั้นท้าย เอว และหัวไหล่ เป็นต้น เมื่อเปรียบเทียบกับที่นอนธรรมดาแล้วย่อมเห็นถึงความแตกต่างที่ดีกว่า
ที่นอนธรรมดาทั่วไป
-ผิวที่นอนมีความนุ่มมากเกินไป หรือแข็งมากจนเกินไป ทำให้เวลานอนรู้สึกไปสบายตัว จนบางครั้งอาจทำให้รู้สึกปวดหลัง
-สภาพไม่คงทน มีระยะเวลาใช้งานที่สั้น อาจเกิดการหลุดร่อนได้ง่าย ที่นอนบางชนิดอาจมีฟองน้ำปะปนอยู่ด้วย
-ไม่เหมาะกับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก หากนอนแล้วอาจทำให้เกิดอาการปวดหลัง
-ที่นอนมีความหนาเนื้อแข็ง ทำให้เวลาพับเก็บหรือเคลื่อนย้ายยากลำบาก
ที่นอนยางพารา
-มีความยืดหยุ่นสูง เนื้อที่นอนไม่นิ่มและไม่แข็งจนเกินไป เวลานอนแล้วช่วยลดอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะมีน้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยก็สามารถนอนได้อย่างสบาย
-เนื้อที่นอนมีความหนา แต่ไม่หนัก สามารถพับจัดเก็บหรือเคลื่อนย้ายได้ง่าย
-ช่วยให้การนอนมีสรีระที่เหมาะสม นอกจากช่วยลดอาการปวดหลังได้แล้ว ยังช่วยลดอาการปวดตามกระดูกและไขข้อ ในบริเวณส่วนอื่นๆ ได้อีกด้วย
-มีสภาพที่คงทน และมีระยะการใช้นานที่ยาวนานถึง 10 ปี แม้จะมีราคาที่สูงกว่าที่นอนธรรมดาเล็กน้อย แต่ก็สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานและคุ้มค่า
-ป้องกันไรฝุ่น เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ เนื่องจากเชื้อโรคและแบคทีเรียไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในเนื้อของยางพาราได้
-สามารถระบายอาการได้ดี ไม่เกิดความร้อนสะสม ช่วยให้ห้องเย็นสบายมากยิ่งขึ้น
ที่นอนยางพารามีกระบวนการผลิตที่ทันสมัย โดยใช้น้ำยางพาราธรรมชาติแท้ 100 % ผ่านขั้นตอนการผลิต โดยเริ่มตั้งแต่การผสมสารเคมี ปั่นจนทำให้เกิดฟอง เรียกกระบวนการนี้ว่า ดันลอป (Dunlop process) ต่อด้วยการอบไอน้ำเพื่อให้โฟมยางเกิดความแข็งแรง (Vulcanization) ไปจนถึงกระบวนการขึ้นรูปยาง ปิดท้ายด้วยการตรวจสอบมาตรฐานการผลิตก่อนนำออกสู่ตลาด
ทั้งหมดนี้ ก็คือ ความแตกต่างระหว่างที่นอนยางพาราและที่นอนธรรมดาทั่วไป เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว หากคุณกำลังมองหาที่นอนดีๆ สำหรับนอนหลับพักผ่อน แนะนำที่นอนยางพารา ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่รักสุขภาพ นอกจากคุณจะได้ความคุ้มค่าแล้วยังเป็นการอุดหนุนพี่น้องชาวสวนยางให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย